หน้าเว็บ

22 ตุลาคม 2551

20 ไอเดียง่ายๆ ช่วยคุณเผาผลาญแคลอรี่


20 อย่างต่อไปนี้ เป็นสิ่งที่คุณทำได้ง่ายๆเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแต่ทำแล้วให้ผลในเรื่องของการลดน้ำหนักไปในตัว

1. จิตใจ - จิตใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากในการที่คุณจะตั้งใจหรือเริ่มต้นจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ แต่ก็ไม่ควรมุ่งมั่นมากจนทำให้กลายเป็นการบังคับตัวเอง เพราะจะทำให้รู้สึกว่าอึดอัดทรมาน และไม่ควรคิดว่าจะทำเพื่อใคร นอกจาก "ตัวเอง" ให้คิดซะว่า..เพื่อความดูดี ใส่เสื้อผ้าแล้วสวย เลือกซื้อเสื้อผ้าง่ายๆ สุขภาพที่ดีขึ้น

2. เวลาและความอดทน - ต้องคิดซะว่า "ไม่มีอะไรที่ได้มาง่ายๆ" ก็เหมือนกับน้ำหนัก มันก็ไม่ได้มาในเวลาแค่ไม่กี่สัปดาห์ ดังนั้นการจะเอามันออกก็ต้องใช้เวลาเหมือนกัน เวลาลดน้ำหนักก็ไม่ควรที่จะตั้งเวลาและเป้าหมายที่บีบตัวเองเกินไป เช่น จะลดให้ได้ 3kg ใน 1 สัปดาห์ พอทำไม่ได้ก็จะท้อ เครียด แล้วก็จะเลิกทำ ควรตั้งเฉพาะเวลาที่เราจะตรวจสอบตัวเองก็พอ เช่น จะชั่งน้ำหนักหลังจากควบคุมอาหารไปแล้ว 2 สัปดาห์ จะลดเท่าไหร่ไม่สำคัญเพราะร่างกายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็ต้องใช่เวลาต่างกัน ในช่วงแรกบางคนน้ำหนักลดแต่ขนาดตัวไม่ลด หรือบางคนน้ำหนักไม่ลดแต่ขนาดตัวลดลง หรือลดทั้งสอง หรือไม่ลดทั้งสองแต่รู้สึกดีขึ้นไม่อืดอัดตัวเองเหมือนเดิมก็ดีแล้ว ดีกว่าที่เราไม่เริมต้นทำอะไรเลย 60kg ยังไงก็ยังงั้น ดังนั้นความอดทนจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก

3. อาหารมื้อหลัก - เป็นอาหารมื้อที่สำคัญมาก (โดยเฉพาะมื้อเช้า จะเป็นมื้อที่กระตุ้นการเผาผลาญของทั่งวัน) ไม่ควรอดอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ระบบเผาผลาญในร่างกายของเราทำงานผิดปกติ เช่น อดมื้อเย็น เมื่อมื้อเย็นเราไม่ทาน ร่างกายของเราก็จะปรับระบบเผาผลาญให้ลดลง ดังนั้นเมื่อเรากลับมาทานมื้อเย็น ก็จะทำให้อ้วนง่ายขึ้น แทนที่จะอดเปลี่ยนเป็นลด (โดยเฉพาะพวกคาร์โบไฮเดรต ทั้งหลายไม่ว่าจะ แป้ง น้ำตาล etc.) จะดีกว่า และที่สำคัญ "เมื่อถึงเวลาอาหารมื้อหลักควรจะกิน" จะได้ไม่หิวอย่างอื่น

4. ปริมาณอาหาร - ปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน ควรสัมพันธ์กับกิจกรรมปกติที่เราทำในทุกๆ วัน และมีปริมาณใกล้เคียงกัน ไม่ควรมากไปหรือน้อยไป แต่ละมื้ออาหารควรทานให้อิ่มพอดีๆ (ยกเว้นอาจจะมีบางวันที่ต้องสังสรรก็ไม่ว่ากัน แต่ก็ไม่ควรกินซะเต็มที่จนแน่นท้อง) และไม่ต้องเสียดายอาหารที่เหลือในจาน แต่ให้คิดซะว่า..อาหารที่เหลือคือแคลอรีที่คุณลดได้

5. อาหาร- ประเภท/ชนิดอาหารก็สำคัญ ถ้าเลือกได้ก็ควรเลือก ถ้าเลือกไม่ได้ก็ควรลดลง
1) น้ำเปล่า - ดื่มน้ำให้บ่อยอย่างที่หลายๆ สูตรเขาแนะนำ (เพราะยังไงน้ำเปล่าที่สะอาดมีประโยชน์ต่อร่างกายอยู่แล้ว) ถ้ารู้สึกหิว ก่อนที่คุณจะหาขนมนมเนยเข้าปาก ให้ลองดื่มน้ำเข้าไปสักครึ่งแก้ว ดูสิว่าหลังจากที่ดื่มน้ำเข้าไปแล้วยังรู้สึกหิวอีกมั้ย เพราะร่างกายของเราจะแยกไม่ออกระหว่าง "หิวกิน" กับ "หิว(กระหาย)น้ำ" ถ้ายังหิวอยู่อีกละก็ แนะนำว่า..ถ้าใกล้อาหารมื้อหลัก (1-1.5 ชม.)ก็ควรจะอดทนอีกนิด (ดิ่มน้ำอีกครึ่งแก้ว หรือไม่ก็หาพวกปลาเส้น "ห่อเล็ก" มาทานรองท้องก่อนก็ได้)
2) น้ำอุ่น - เมื่อรู้สึกอยากทานเครื่องดื่มอุ่นๆ อาจจะเพราะอากาศเย็นรึว่าอยากทาน แนะนำว่าให้ทานน้ำอุ่น หรือให้หาน้ำขิงหรือชาเขียว ดื่มแทนพวกกาแฟ หรือโกโก้ทั้งหลายจะดีกว่า (เคยอ่านมาว่าการดื่มกาแฟหนึ่งถ้วย เปรียบเสมือนทานข้าวไปสองจาน เข้าใจเลยว่าน่าจะเป็นพวกครีมกับน้ำตาลที่ผสมอยู่ เลยทำให้อ้วน)



5. กิจกรรม - ตามที่ได้บอกมาแล้วว่า "..ปริมาณอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวัน ควรสัมพันธ์กับกิจกรรมปกติที่เราทำในทุกๆ วัน.." และถ้าหากเพิ่มกิจกรรมขึ้นได้จากเดิมก็จะช่วยให้เห็นผลเร็วขึ้น เช่น การออกกำลังการ แต่ถ้าไม่มีเวลา เราก็สามารถปรับเปลี่ยนบางอย่างที่เราทำ หรือควรจะทำอยู่แล้วในแต่ละวันเพื่อเพิ่มกิจกรรมให้มากขึ้น เช่น
1) ลิฟท์กับบันได จากที่เคยขึ้นลิฟท์ก็เปลี่ยนเป็นใช้บันได ถ้าทำงานที่ชั้นสูงๆ ก็อาจจะแค่ 2-3 ชั้นก็พอ ไม่ต้องเว่อมาก เดี๋ยวเหงื่อไหลกลิ่นตัวออก คนรอบข้างจะหนีหมด
2) รถเข็นกับตระกร้า จากที่เคยใช้รถเข็นก็เปลี่ยนเป็นใช้ตระกร้าเวลาไปซื้อของ แต่ถ้าจะต้องซื้อของเยอะก็เอาไปทั้งตระกร้าและรถเข็น จอดรถไว้ใกล้ๆ (อย่าให้ขวางทางคนอื่นล่ะ) แล้วก็ใช้ตระกร้าถึอไปหยิบของ พอตระกร้าเต็มหรอของที่หนักมากก็ขนใส่รถไว้ แล้วค่อยถึอตระกล้าเลือกของต่อ นอกจากจะได้ออกกำลังกายแล้วยังเดินสะดวก ไม่ต้องเข็นรถหลบกันไปมา
3) กินก่อนทำ หลายคนทำกิจกรรม (เช่น เดินช็อปฯ ทำความสะอาดบ้าน) แล้วก็มากิน พอกินเสร็จ "หนังท้องตึงหนังตาก็ย่อน ทั้งเหนื่อย ทั้งอิ่ม กลายเป็นหลับซะงั้น" จากเดินซื้อของจนเหนื่อยแล้วค่อยมากิน (แต่ถ้ากินเสร็จแล้วช็อปต่อก็โอเค) ทางที่ดีควรกินก่อนแล้วค่อยช็อป หรือบางคนกินข้าวเสร็จก็ไปดูหนัง ก็ควรจะเผื่อเวลาให้ดูหนังเสร็จแล้วค่อยมากิน (ไม่ง่วงในโรงหนังด้วยนะ)
4) นอนกับกิน นอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่และเต็มตา ดีกว่าตื่นขึ้นมายากกินนู้นนี่ เพราะผู้หญิงเราหากได้นอนหลับเพียงพอ ร่างกายจะสามารถเพิ่มระบบเผาผลาญได้มากขึ้นจากปกติถึง 40%(นอนมากก้อหยุดกินได้มาก)
5) ฯลฯ


5. สภาพแวดล้อม - ไม่ว่าจะคนหรือสิ่งของ คนรอบข้างนี่ก็สำคัญมาก เช่นครอบครัว เพื่อน แต่ละครอบครัวก็มีการรับประทานที่ต่างกัน ดังนั้นก็บอกที่บ้านเลยว่าเราจะกินอะไรได้บ้างหรือว่าก็กินเหมือนที่เคยกินแต่ลดลงเท่านั้นก็โอเคแล้ว หรือเพื่อนบางคนกินเยอะแต่ไม่อ้วน บางคนอ้วนแต่ก็กินเยอะไม่ลด ดังนั้นก็ไม่ต้องปิดบังว่าลดน้ำหนัก แต่ก็ไม่ต้องถึงกับว่าประกาศให้โลกรู้ ถามก็บอก ไม่ถามก็เฉยๆ หรือไม่ก็ชวนลดด้วยกันเลย แรกๆก็อาจจะมีเสียงนกเสียงกาบ้าง ("ก็อย่าไปสนใจเลย คนมันจะสวย จริงมั้ย") เพราะมันมีอยู่แล้วพวกเพื่อนบ้างประเภทที่ชอบทำเหมือนตัวเองกินเยอะ ไม่กลัวอ้วน แต่เชื่อเหอะว่า..ลึกๆ แล้ว "ผู้หญิงทุกคนกลัวอ้วน"
และสิ่งของก็เป็นแรงจูงใจได้หลายๆอย่าง เช่น ตู้เย็น อย่าพยายามสะสมอาหารไว้กิน พยามยามให้โล่งเปล่าไว้จะดีที่สุด แต่ที่ควรมีติดตู้นั่นก็คือ น้ำเปล่า และในช่วงแรกๆที่ยังปรับตัว (อาจจะหิวบ่อยๆ ซึ่งก็ไม่ต้องถึงกับอดเลย) ก็อาจจะมีผักติดดูเย็นไว้กินแก่หิวได้ เช่น แตงกว่า ถั่วผักยาว แครรอท จำไว้ว่าไม่ต้องหั่นเตรียมไว้ และอย่ามีอาหารที่สำเร็จรูปแบบสะดวกกินเกินไป แต่ควรเอาทำเมื่อหิวหรือถึงเวลาที่จะกินถึงเอามาทำ เพราะบางทีขี้เกียจทำก็อาจจะไม่อยากกินไปเอง

3. กฎเหล็กของการลดความอ้วนคือ การตัด ABC ออก A หมายถึง Alcohol(แอลกอฮอล), B หมายถึง Bread(ขนมปัง) และ C carbohydrates (คาร์โบไฮเดรต)


6. เคยมีผลวิจัยบอกว่า การได้ฟังดนตรีเพลงโปรด (ต้องเพลงช้าๆ นะ)นั้นเปรียบเสมือนได้ทานอาหารรสเยี่ยม ทีนี้เมื่อคุณเกิดอยากอาหาร ให้เปลี่ยนมาฟังเพลงเพราะๆ แทน ก้อจะช่วยได้ค่ะ

7. เตือนความจำตัวเองด้วยการนำชุดตัวเก่งที่คุณใส่ได้เมื่อครั้งยังผอม แขวนในตู้เสื้อผ้าที่คุณสามารถเห็นได้ชัดทุกวัน เพื่อเตือนความจำให้คุณอยากกลับมาใส่ชุดนี้อีกครั้ง (อย่าเอาไปบริจาคเสียหมดหละคะ)

8. เมื่ออยู่ห้องแอร์เย็นๆ ให้หาน้ำขิงหรือชาเขียวดื่มแทน กาแฟ กาแฟหนึ่งถ้วย เปรียบเสมือนทานข้าวไปสองจาน น่าตกใจไหมล่ะ (ป.ล. เข้าใจว่าน่าจะเป็นพวกครีมกับน้ำตาลที่ผสมอยู่ ทำให้อ้วนกระมัง)


10. ก่อนเข้าซุปเปอร์มาเก็ตทุกครั้ง ควรจดรายการที่ต้องการ และซื้อตามรายการที่จด แทนการเลือกซื้อแบบตามใจฉันจะนึกออก ณ ตอนนั้น หากตั้งใจช้อปของไม่มาก แนะนำให้ถือตระกร้าแทนรถเข็น เพราะนอกจากจะช่วยให้คุณได้ออกแรงแล้ว ยังช่วยไม่ให้คุณเลือกซื้อของเกินรายการที่ต้องการอีกด้วย (เมื่อยหน่อยก้อต้องทนเอานะคะ)

11. หลีกเลี่ยงการอยู่หรือทำงานในเวลากลางคืน เนื่องจากแสงของยามค่ำคืน และการนอนดึกจะยิ่งทำให้คุณอยากทานของจุกจิก หรือหิวระหว่างคืนได้ แต่หากคุณต้องดูหนังในเวลากลางคืนดึกดึกก็ให้เปิดไฟดวงน้อย เมื่อหนังจบจะได้แค่เอื้อมมือดับไฟนอนได้เลยไม่ต้องลุกผ่านตู้เย็นไปปิดไฟไงคะ (เดี๋ยวจะห้ามใจไม่ให้เปิดตู้เย็นไม่อยู่)

12. เปลี่ยนขนมจุกจิกเป็นลูกอม เพราะลูกอมมีแคลอรีเพียง 20 แคลอรี และสามารถช่วยให้คุณหายหิวได้ถึง 20 นาที

13. เติมความสดชื่นด้วยชาเขียว เพราะชาเขียวสามารถทำให้ร่างกายเผาผลาญแคลอรีได้มากขึ้น ควรหาชาเขียวมาดื่มร้อนๆ สักสามถ้วยต่อวัน(เน้นว่าชาเขียวร้อนนะคะ นัยว่าชาเขียวเย็นน่าจะไม่ช่วยอะไรค่ะ)

14. ทำเรื่องกินให้เป็นเรื่องใหญ่ โดยไม่ทานอาหารในขณะที่กำลังทำกิจกรรมอื่นๆ เช่น ดูทีวีหรือเล่นอินเทอร์เน็ต หากต้องกิน ก็ควรนั่งกินบนโต๊ะอาหารอย่างเป็นเรื่องเป็นราวให้เป็นนิสัยค่ะ

15. หาเวลาสัก 20 นาทีต่อวัน สำหรับการเดินเล่น ชมสวน หรือนั่งเล่นท่ามกลางธรรมชาติ วิธีนี้นอกจากจะได้สูดอากาศบริสุทธิ์แล้ว ยังช่วยเผาผลาญแคลอรีต่อวันได้อีกไม่มากก้อน้อยด้วยนะคะ

16. ฝึกที่จะใช้บันไดแทนลิฟ หากคุณทำงานหรือเรียนอยู่บนชั้นสูงๆ ให้ขึ้นลิฟไปถึงก่อนชั้นทำงานหรือชั้นเรียนอย่างน้อย 2 สำหรับชั้นที่เหลือให้ใช้บันไดแทน จะได้ออกกำลังกายในระหว่างทำงานงัย

17. ปลดปล่อยอารมณ์ให้สุดเหวี่ยงขณะขับรถ โดยการฟังเพลงแดนซ์เพลงโปรดร้องออกมาดังๆ ขยับร่างกายตามเพลง ไม่ต้องไปสนใจใคร โดยเฉพาะหากรถยังแล่นอยู่ แต่ถ้ารถหยุดก้อสงวนท่าทีหน่อยก็ดีนะคะ

18. ยุ่งนัก หาเวลาออกกำลังไม่ได้ ให้หาถุงเท้าสบายๆ ใส่อยู่บ้านแล้วโลดแล่นให้ทั่วพื้นบ้าน จินตนาการว่ากำลังเล่นสเก็ตอยู่ เพียง 10 นาทีก็ช่วยคุณเผาผลาญแคลอรีได้ถึง 150 แคลอรีเชียวนะ

19. หาวีดีโอหรือวีซีดีออกกำลังกายสักหนึ่งชุด แล้วเปลี่ยนห้องของคุณให้กลายเป็นเฮ็ลท์คลับส่วนตัว เปิดแอร์ได้ไม่ว่ากันค่ะ

20. เปลี่ยนนิสัยขี้เกียจ แล้วเริ่มหัดทำงานบ้านเสียบ้าง เพราะทุกสิ่งที่คุณทำล้วนเปรียบเสมือนได้ออกกำลังกายและเผาผลาญแคลอรีในตัว







ไม่มีความคิดเห็น: